วิธีเลือกกระจกให้เหมาะกับบ้าน อาคาร พร้อมวิธีดูแลกระจกให้สวยงาม
กระจกกับการแต่งอาคารบ้านเรือนมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในแง่ของการนำมาตกแต่งให้บ้านหรืออาคารต่างๆ ให้ดูสวยงาม โปร่ง กว้างและทันสมัย แต่ก่อนที่จะนำมาตกแต่งบ้าน ก็ควรที่จะรู้จักกระจกกันก่อนว่ามีแบบใดและชนิดใดกันบ้างเพื่อที่จะได้นำมาใช้ได้อย่างเหมาะสม
ประเภทของกระจก
กระจกที่ใช้ตกแต่งอาคารบ้านเรือนถูกแบ่งออกมาเป็น 3 ประเภทได้ดังนี้
1.กระจกใส
นิยมใช้กันมากในการตกแต่งภายในร้านค้าในห้าง ออฟฟิศ สำนักงานหรือใช้เป็นผนังลิฟต์ ทำให้ดูหรูหรา โปร่ง สะอาดตา ทำให้ห้องที่ตกแต่งดูกว้างขวางขึ้น แต่ถ้าเป็นบ้านหรือใช้ตกแต่งภายนอกมักไม่นิยม เพราะกันแสงแดดและกันความร้อนไม่ได้อีกทั้งเผยให้เห็นภายใน ทำให้ขาดความเป็นส่วนตัว ส่วนใหญ่ไม่ใช้กระจกใสล้วนเพราะจะยังขาดความแข็งแรง ทนทาน แต่จะใช้เป็นกระจกใสเทมเปอร์หรือลามิเนต กระจกใสยังถูกแบ่งตามลักษณะของสีอีกด้วยและในแต่ละสีก็มีข้อเด่นที่ควรนำมาใช้ให้เหมาะกับความต้องการดังนี้
กระจกใสสีเขียว มักนิยมใช้ในสำนักงาน ผลิตด้วยการใช้กระจกใสแต่เพิ่มออกไซด์ของโลหะเข้าไปผสมด้วย สามารถทำให้เข้มมากหรือน้อยตามโลหะที่ผสมได้ สามารถตัดแสงได้ 25 % ลดความร้อนได้ 51 % เป็นกระจกที่รวมความร้อนไว้ที่จุดเดียวไม่ได้แผ่กระจายความร้อนไปทั่วๆ ได้ เมื่อความร้อนมารวมที่จุดเดียวจึงทำให้กระจกชนิดนี้แตกได้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้ตกแต่งบ้านหรือสำนักงานที่ไม่สูงมาก ไม่เหมาะกับตึกสูงๆ เพราะจะเกิดความเสียหายได้มาก
กระจกสีฟ้า เหมาะสำหรับการตกแต่งภายนอกนิยมใช้ในบ้านจัดสรรเพราะสวย สบายตา ให้ความรู้สึกที่เย็นสบาย สามารถลดแสงและลดความร้อนได้ดีกว่าสีเขียวคือ ลดแสง 42% ลดความร้อน 57% และควรใช้เป็นเทมเปอร์หรือลามิเนตจึงจะดีมาก
กระจกสีชา เป็นสีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงเพราะนอกจากสวย ให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้อยู่อาศัยด้วยแล้วยังสามารถลดความร้อนลงได้ 34 %และลดแสงลงเหลือเพียง 22 % ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ข้างในบ้านหรืออาคารที่ใช้กระจกชนิดนี้ดูมืดทึบ จึงเหมาะกับอาคารที่ไม่ต้องการเปิดเผยให้บุคคลภายนอกได้เห็นภายในมากนัก
2.กระจกเงา
เป็นกระจกที่เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการให้มิติของห้องให้ดูกว้างขวางหรือให้เห็นกิจกรรมที่กำลังกระทำอยู่ โดยไม่หลอกตา ควรเลือกที่มีความหนาประมาณ 6 ม.ม.ขึ้นไป เพราะสามารถสะท้อนให้เห็นพื้นที่ได้เท่าขนาดจริงที่มีอยู่ เรียบง่ายหรูแต่ยังคงมีสไตล์ ราคาถูก สร้างบรรยากาศที่โอ่อ่า มักนิยมใช้ในสถานที่ออกกำลังกาย เป็นต้น
3.กระจก Stained Glass
เป็นกระจกที่สวยหรูดูแพง เพราะจะประดับตกแต่งไปด้วยลวดลายต่างๆ เป็นการเฉพาะ เพิ่มความหลากหลายให้มีสีสัน ไม่ซ้ำแบบใครบ่งบอกถึงรสนิยมของผู้ใช้ สวยงามและแข็งแกร่ง เพิ่มความสว่างของห้อง ช่วยปกป้องอุณหภูมิภายใน ด้วยการนำกระจกแต่ละชิ้นมาเรียงต่อกันด้วยรางทองเหลืองหรือวัสดุอย่างอื่นที่ปลอดสนิม ดูทรงคุณค่าอีกทั้งยังเหมาะที่จะใช้ประดับตกแต่งบานประตูอาคาร บานหน้าต่าง โถงบันไดหรือใช้กั้นเป็นฉากก็ยังได้ เมื่อมีแสงตกกระทบกระจกสเตนกลาสจะทำให้ห้องดูสดใสสวยน่ามองมากเลยทีเดียว
วิธีที่จะช่วยรักษาให้กระจกดูแวววาว สะอาดสะอ้าน สวยงาม
หลังจากเลือกกระจกที่จะนำมาตกแต่งภายใบ้านหรืออาคารได้แล้ว ก็สามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
1.หากมีน้ำเกาะที่กระจกควรรีบเช็ดออกอย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะจะทำให้กระจกเกิดรอยด่างขึ้นหากจะหลีกเลี่ยงปัญหานี้ก็ไม่ควรติดตั้งกระจกใกล้กับจุดที่มีน้ำเนื่องจาก ความชื้นของไอน้ำจะไปเกาะที่กระจกได้บ่อยๆ ได้นั่นเอง
2.เมื่อกระจกสกปรก ขณะทำความสะอาดไม่ควรใช้น้ำยาเช็ดกระจกหรือน้ำยาใดๆ ฉีดพ่นลงที่กระจกโดยตรง เพราะจะทำให้เกิดรอยด่างดำขึ้นได้ หรือหากเป็นสารเคมีที่เป็นกรดหรือด่างก็เช่นกันไม่ควรให้โดนกระจกเพราะสารเคมีเหล่านี้จะกัดกร่อนกระจกให้เสียรูปทรงได้นั่นเอง
กระจกสวยดูดีที่เลือกสรรมาตกแต่งบ้านหรืออาคารอย่างลงตัวแล้วหากจะให้ดูใหม่ คงทนใช้งานได้นานแล้วนั้นใช่เพียงแค่วัสดุที่นำมาทำเป็นกระจกอย่างเดียว หากแต่ยังขึ้นอยู่กับความใส่ใจดูแลรักษาความสะอาดอีกด้วย ทำควบคู่กันไปแล้วรับรอง กระจกจะสะท้อนความงามให้แก่บ้านหรืออาคารนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!